มูลนิธิต้นไม้สีเขียว

เกี่ยวกับ
มูลนิธิต้นไม้สีเขียว
องค์กรของเรา
มูลนิธิต้นไม้สีเขียว เกิดขึ้นจากรากฐานความคิดที่ว่าด้วย “จริยธรรมทางสิ่งแวดล้อม” โดยเชื่อว่า "ความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ การขาดแคลนข้อมูล กําลังคนหรืองบประมาณเพื่อการวิจัย ความเสื่อมโทรมนี้เกิดจากวิถีการดํารงชีวิตของโลกสมัยใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อบางอย่าง หมายความว่า วิกฤตการณ์ทางสิ่งแวดล้อมที่กําลังเกิดอยู่บนโลกของเรานั้นมีต้นกําเนิดมา จากโลกทรรศน์และจริยธรรมของมนุษย์ที่ดํารงอยู่ในระบบเศรษฐกิจ คนในสังคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีโลกทรรศน์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อด้านพฤติกรรมในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็น มนุษย์แยกตนเองออกจากธรรมชาติ อยู่เหนือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และยังพยายามสร้างบทบาทที่จะพิชิตและบังคับให้ธรรมชาติอยู่ใต้อํานาจของมนุษย์ และใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ อีกทั้งมนุษย์ยังมีความเชื่อที่ว่า “ทรัพยากรมีมากมายไม่มีขีดจํากัด สามารถเพิ่มปริมาณและก่อเกิดทดแทนได้เสมอ และถ้าเกิดขาดแคลน มนุษย์ก็สามารถแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ มาทดแทนได้” รวมถึงการพัฒนาทางด้านการผลิตและการบริโภคเพื่ออำนวยความสะดวกในวิถีชีวิตของมนุษย์เป็นผลให้มนุษย์ครอบครองวัตถุอย่างไร้ขอบเขต ดังนั้นเพราะมนุษย์มีความเจริญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอย่างมาก ความเจริญเติบโตทั้งปวงเป็นสิ่งที่ดี โลกทรรศน์แบบนี้ได้รับการสนับสนุนจากความเชื่ออีกอย่างหนึ่งที่ว่า มนุษย์กําลังอยู่ในยุคข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สําคัญที่สุดในการให้ความมั่งคั่งและอํานาจแก่มนุษย์ การครอบครองข่าวสารจะเป็นเครื่องมือหลักที่สนับสนุนให้มนุษย์สามารถครอบงําพิภพได้เบ็ดเสร็จ การใช้ประโยชน์จากธรรมชาติยิ่งเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด
โลกทรรศน์แบบอุตสาหกรรมนิยมนี้ เกิดจากโลกทรรศน์ ที่ตั้งอยู่บนความเชื่อว่า มนุษย์มีความสามารถสูงในการใช้เทคนิควิทยาศาสตร์ และการจัดการเพื่อแสวงหา ประโยชน์จากธรรมชาติได้อย่างไม่มีขอบเขต การมีพลังอํานาจทางเทคโนโลยีอันมหาศาลทําให้มนุษย์สามารถควบคุมจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติได้ตราบใดที่มนุษย์ยังคงมีความเชื่อลักษณะนี้ เราจะไม่มีวันหลุดพ้นไปจากวิกฤตการณ์ทางสิ่งแวดล้อมได้เลย มูลนิธิต้นไม้สีเขียว จึงริเริ่มที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการมองโลกด้วยวิถีทางใหม่ที่เชื่อว่า "โลกเป็นระบบที่มีชีวิต มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่อาจแยกจากธรรมชาติได้ มนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เป็นสมาชิกของประชาคมธรรมชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายที่มีความเชื่อมโยงกัน" เราอาจเรียกแนวใหม่นี้ว่า "Sustainable Earth Worldview" โดยในภาษาไทยใช้ศัพท์คําว่า "โลกธรรมชาติยั่งยืน" ซึ่งสามารถ สรุปสาระได้ 4 หัวข้อ คือ
-
เรียนรู้กฎนิเวศวิทยาอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะเข้าใจปรากฏการณ์พื้นฐานทางธรรมชาติและให้มีพฤติกรรมสอดคล้องกับกฎ ธรรมชาติอย่างกลมกลืน อันเป็นเงื่อนไขสําคัญที่สุดของการดํารงอยู่ของธรรมชาติอย่างหลากหลายและมี เสถียรภาพ
-
เคารพสิทธิทางธรรมชาติของสรรพสิ่งมีชีวิต กล่าวคือการให้ความสําคัญเรื่องสิทธิและหน้าที่ของบุคคลในสังคม นอกจากนั้นยังขยายขอบเขตของสิทธิมนุษย์ไปสู่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดด้วย
-
รักษ์และอนุรักษ์ธรรมชาติ ภายใต้ความเชื่อนี้ เชื่อว่าสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไม่ใช่สิ่งของ หากแต่เป็นความรัก ความห่วงใย ความเมตตาและความสุขและยังเชื่อ อีกว่า “การให้การคุ้มครองพื้นที่ธรรมชาติที่ยังเหลืออยู่คือการไม่ดําเนินกิจกรรมใดๆ ที่ทําลายธรรมชาติและจะต้องทําการฟื้นฟูระบบธรรมชาติที่เสื่อมโทรม” และต้องให้ความรัก ความห่วงใย ความเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมในชุมชน และดํารงชีวิตอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ
4. สร้างจริยธรรมทางเศรษฐศาสตร์สีเขียว ในการสนองความต้องการของมนุษย์เพื่อการดํารงอยู่ควรที่จะต้องใช้ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างมากหรือรุนแรง เมื่อจำเป็นต้องดำเนินการใดที่มีการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ จำเป็นต้องค้นคิดวิธีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ยั่งยืน สอดคล้องกับวิถีทางธรรมชาติ ทรัพยากรมีปริมาณจํากัด จึงต้องใช้แบบประหยัดไม่ล้างผลาญหรือฟุ่มเฟือย
ดังนั้นการอธิบายว่ามนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตส่วนน้อยในระบบนิเวศขนาดใหญ่ เท่านั้น ไม่ได้มีสถานะพิเศษไปกว่าชีวิตอื่นๆ และการแยก มนุษย์ออกจากความสัมพันธ์นี้จึงเป็นการไม่ตระหนักถึงระบบชีวิตขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำมาแต่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ยุ่งเหยิงมากขึ้นเรื่อยๆ
จริยธรรมสิ่งแวดล้อม จึงเป็นแนวคิดที่นำเสนอภาพความสัมพันธ์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากการยึดเอามนุษย์เป็นศูนย์กลางในการตัดสินคุณค่า ไปเป็นภาพความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ของทุกชีวิตในระบบนิเวศ เพื่อนำไปสู่จิตสำนึกในรูปแบบใหม่ที่จะทำให้มนุษย์ปฏิบัติต่อโลกธรรมชาติในฐานะที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เสมือนกับคนในครอบครัวหรือคนในชุมชนเดียวกัน นั่นคือถ้ามนุษย์ทำร้ายธรรมชาติก็เป็นเหมือนกับการทำร้ายตัวเอง การดูแลสิ่งแวดล้อมและโลกธรรมชาตินั้นไม่ใช่เพราะมนุษย์มีจริยธรรมต่อมนุษย์ คนอื่นๆ หรือต่ออนุชนในรุ่นหลัง แนวคิดนี้ได้อธิบายว่า มนุษย์ยังคงใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้ต่อไป แต่ต้องไม่ใช่ในฐานะของทรัพยากรที่นำไปสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ แต่เป็นในฐานะของสิ่งที่จะต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกันในการดำรงอยู่ ที่สำคัญ แนวคิดดังกล่าวยังเอื้อต่อสภาพแวดล้อม ทั้ง ดิน-น้ำ-ป่า อันจะคืนความสมบูรณ์ให้กับแผ่นดิน การก้าวสู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียงอาจจะเป็นเพียงวาทะกรรมที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมเพียงบางส่วนที่เป็นการแสดงออกต่อความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนี้การที่จะช่วยเหลือ ร่วมมือกันด้วยหัวใจจึงเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในสัมคมโลก ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของมนุษยชาติ ทั้งนี้เพื่อให้มนุษย์ในรุ่นต่อไปภายหน้าสามารถอาศัยอยู่บนโลกนี้อย่างไม่กระเสือกกระสน เช่นเดียวกับคนในยุคปัจจุบัน
วิสัยทัศน์ และพันธกิจของเรา
มูลนิธิต้นไม้สีเขียวดำเนินกิจกรรมด้านการสนับสนุน และการให้คำปรึกษาในหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศ เพื่อการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน มีคุณภาพชีวิต สืบสานวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ให้สามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงสร้างการคงอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและเยาวชนรุ่นอนาคตต่อไป
มูลนิธิต้นไม้สีเขียวได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กรภายนอกทั้งรัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคล กลุ่มบุคคลหลากหลายอาชีพ ที่มีแนวคิด วิสัยทัศน์และจุดประสงค์ร่วมกัน ในอันที่จะร่วมกันอนุรักษ์สภาพแวดล้อม วิถีชีวิตชุมชน การสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและการพัฒนา รวมถึงการสนับสนุนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมิได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ภายใต้หลักการบริหารของมูลนิธิต้นไม้สีเขียว ที่ให้ความสำคัญกับคุณธรรม และความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ เพื่อให้โครงการต่างๆ ภายใต้การดำเนินงานขององค์กรสามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง ภายใต้วัตถุประสงค์ดังนี้
-
ดำเนินงานจัดตั้งกองทุนการกุศล ที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างชุมชนเข้มแข็งในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมในชุมชนทั้งชุมชนเมืองและชุมชนห่างไกล
-
ดำเนินงานโครงการต่างๆ เพื่อให้ชุมชนมีความยั่งยืน มีความสมดุลระหว่างวิถีชีวิตสังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมของท้องถิ่น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม และปรับตัวให้สอดรับกับความอยู่รอดทางเศรษฐกิจพื้นฐานที่เหมาะสมในกระแสโลกาภิวัตน์และให้เกิดชุมชนเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
-
ดำเนินการให้ความรู้ความเข้าใจต่อชุมชุน เพื่อสร้างความเข้าใจในการรักษาสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกันระหว่างการพัฒนาและวิถีชีวิตอย่างยั่งยืน
-
ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาในรูปแบบของการวิจัย การศึกษา เรียนรู้ การอบรม การสัมมนา การศึกษาดูงาน และด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และสุขาภิบาลชุมชน
-
ส่งเสริมการพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีด้านสุขาภิบาล รวมถึงเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาพลังงานทางเลือก และการอนุรักษ์พลังงาน
-
ดำเนินการจัดตั้ง เครือข่ายรักษ์และอนุรักษ์ธรรมชาติ และชุมชน เพื่อให้เกิดศูนย์กลางประสานงาน ตามแนวคิดวิสัยทัศน์ของมูลนิธิต้นไม้สีเขียว
-
เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนและชุมชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม คุณภาพชีวิต ทรัพยากร ด้วยวิถีทางที่เป็นมิตรกับธรรมชาติตามระบบนิเวศวิทยา
-
เพื่อดำเนินการ หรือร่วมมือกับองค์การภาครัฐบาล ภาคเอกชน และองค์กรการกุศลอื่น ๆ เพื่อสร้างจริยธรรมทางเศรษฐศาสตร์สีเขียว
-
ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนเอื้อประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนในกิจกรรมเพื่อการแสดงออกต่อความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมืองในรูปแบบต่าง ๆ แต่ประการใด